รับตรง 68 โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท คณะแพทยศาสตร์ ม. ธรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ เห็นสมควรเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อสอบคัดเลือกเข้าศึกษาใน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระดับปริญญาตรี ประจำปีการศึกษา 2568 จึงขอประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบคัดเลือก ดังต่อไปนี้
1. นโยบายการรับเข้าและคัดเลือกนักเรียนเพื่อเข้าศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต
2. ประกาศคุณสมบัติภูมิลำเนาพื้นที่การรับและโควตาการรับนิสิต/นักศึกษาแพทย์ ประจำปีการศึกษา 2568 โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท
3. โครงการการรับเข้าศึกษาและจานวนรับเข้าศึกษา หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต
3.1 หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรปกติ)
3.1.1 รอบแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) จำนวน 10 คน
3.1.2 รอบโควตา
3.1.2.1 โครงการรับนักเรียนจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวน 4 คน
3.1.2.2 โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท จำนวน 105 คน
3.1.2.2.1 โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบทศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.สระบุรี จำนวน 30 คน
3.1.2.2.2 โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบทศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 30 คน
3.1.2.2.3 โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบทศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จำนวน 15 คน
3.1.2.2.4 โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบทศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.พุทธโสธร จำนวน 30 คน
3.1.3 รอบ admission ผ่านระบบรับตรงของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย จำนวน 70 คน
คุณสมบัติ เงื่อนไข ขั้นตอน การสมัคร
การสอบคัดเลือกและตัดสินผลโดยผ่านระบบรับตรง (Direct Admissions) ของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ที่ www9.si.mahidol.ac.th
3.2 หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรภาษาอังกฤษ) รับตรงร่วมกับวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติ จุฬาภรณ์ (CICM)
รายละเอียดเงื่อนไขการรับสมัครตามประกาศของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ www.tuadmissions.in.th
คุณสมบัติเฉพาะหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต
ด้วยกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ได้กำหนดคุณสมบัติเฉพาะของผู้สมัครเข้าศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตให้เหมาะสมโดยยึดหลักการสาคัญ 3 ข้อ คือ
(1) ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วย
(2) ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ศึกษาแพทย์เอง และ
(3) เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพเวชกรรมคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร ดังต่อไปนี้
1. ต้องมีคุณสมบัติที่จะปฏิบัติงานในส่วนราชการหรือหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐได้หลังจากจบการศึกษาแล้วโดยต้องสามารถทำสัญญาผูกพันฝ่ายเดียว
หรือสัญญาปลายเปิดกับรัฐบาล ตามระเบียบและเงื่อนไขของรัฐบาลกับมหาวิทยาลัย
2. ต้องมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรคหรือความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงานและการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ดังต่อไปนี้
3. มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรงอันอาจเป็นอันตรายต่อตนเอง และ/หรือผู้อื่น เช่น โรคจิต (psychotic disorders) โรคอารมณ์ผิดปกติ (mood disorders) บุคลิกภาพผิดปกติ (personality disorders) ชนิด antisocial personality disorders หรือ borderline personality disorders รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
4. เป็นโรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่อาจเกิดอันตรายต่อตนเอง ต่อผู้ป่วย หรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวร อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน
และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
5. เป็นโรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาที่อาจเกิดอันตรายต่อตนเองต่อผู้ป่วยและการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
6. มีความพิการทางร่างกายอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
7. มีความผิดปกติในการได้ยินทั้งสองข้าง โดยมีระดับการได้ยินเฉลี่ยที่ความถี่ 500-2000 เฮิรตซ์สูงกว่า 40 เดซิเบล และความสามารถในการแยกแยะคาพูด (speech
discrimination score) น้อยกว่าร้อยละ 70 จากความผิดปกติของประสาทและเซลล์ประสาทการได้ยิน (sensorineural hearing loss) อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาการปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
8. มีความผิดปกติในการเห็นภาพ และคณะกรรมการแพทย์ผู้ตรวจร่างกายเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาการปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยมีระดับการมองเห็นในตาข้างดีเมื่อแก้ไขด้วยแว่นสายตาแล้วแย่กว่า 6/12 หรือ 20/40
9. โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ และคณะกรรมการแพทย์ผู้ตรวจร่างกายเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาการปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
คณบดีคณะแพทยศาสตร์อาจแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค หรือผู้เชี่ยวชาญในแต่ละกรณีตรวจเพิ่มเติมได้ คณะแพทยศาสตร์ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาตัดสินซึ่งผลการพิจารณาของคณะแพทยศาสตร์ถือเป็นที่สิ้นสุดในกรณีที่ตรวจร่างกายแล้ว
ปรากฏว่าผลการตรวจผิดปกติในกรณีของการเห็นภาพ การได้ยิน และจิตเวชให้ผู้สมัครมาตรวจซ้าเพื่อยืนยันโดยคณะกรรมการแพทย์ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แต่งตั้งเท่านั้น
คุณสมบัติเฉพาะโครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท
1. มีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 21 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
2. ผู้สมัครต้องเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6และต้องศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายตลอดจนจบหลักสูตรรวมทั้งต้องมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดที่กาหนด
3. ผู้สมัคร และ บิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครองตามกฎหมาย ต้องมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดที่สมัครต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร (หากบิดาหรือมารดาที่เป็นข้าราชการโยกย้ายออกจากพื้นที่ตามคาสั่งก่อนครบ 5 ปี ต้องแสดงเอกสารการโยกย้ายเพื่อขออนุโลม) โดยมีทะเบียนบ้านเป็นหลักฐานสำคัญตามพื้นที่จังหวัดที่กำหนด ( ดูได้ในระเบียบการ )
เงื่อนไขการสมัคร
ผู้ที่สมัครโครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบทแล้ว
ไม่สามารถสมัครในกลุ่มโครงการของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดังต่อไปนี้
1. โครงการธรรมศาสตร์ช้างเผือก
2. โครงการนักเรียนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
3. โครงการส่งเสริมนักเรียนเรียนดีภาคกลาง
4. โครงการรับนักเรียนผู้มีความสามารถดีเด่นด้านวิชาการ (สอวน. และ สสวท.)
5. โครงการนักศึกษาผู้มีความสามารถดีเด่นในการกีฬา
6. โครงการรับนักเรียนพลเมืองจิตอาสาเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
7. โครงการโควตาพื้นที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
8. โครงการรับนักเรียนจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม : เอกสารประกาศ !!
สำรอง : https://med.tu.ac.th/?page_id=2521
กำหนดการรับสมัคร : วันที่ 3 – 18 มีนาคม 2568
.
ขอบคุณข้อมูล : https://med.tu.ac.th