“ขาดน้ำ” ไม่ใช่เรื่องดี เพียงแค่นิดเดียวก็ทำให้สมองไร้ประสิทธิภาพได้
งานวิจัยเรื่องน้ำมีผลกับร่างกายอย่างไร เป็นงานวิจัยที่มีการตีในวารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์ว่าด้วยการกีฬาและการออกกำลังกาย (Medicine & Science in Sports & Exercise) โดยระบุว่าภาวะขาดน้ำแม้เพียง 2% ของมวลกาย หรือเทียบเท่ากับการเสียเหงื่อปริมาณ 1 ลิตร ก็เริ่มส่งผลเสียต่อการประมวลผลของสมองในงานที่ต้องใช้สมาธิสูงและมีความยุ่งยากซับซ้อนแล้ว
ทีมผู้วิจัยได้วิเคราะห์ผลการศึกษาในอดีต 33 ชิ้น ซึ่งว่าด้วยความสัมพันธ์เกี่ยวข้องระหว่างภาวะขาดน้ำกับประสิทธิภาพในการใช้สมอง โดยงานวิจัยทั้งหมดครอบคลุมกลุ่มตัวอย่าง 416 คน ที่มีภาวะขาดน้ำตั้งแต่ระดับ 1% ไปจนถึงระดับ 6% ของมวลกาย
ผลวิเคราะห์พบว่าภาวะขาดน้ำที่ระดับ 2% ของมวลกาย ก็เพียงพอที่จะทำให้การทำงานของสมองเริ่มรวนเรได้แล้ว แม้การขาดน้ำในระดับนี้จะไม่ทำให้คนเรารู้สึกกระหายน้ำเลยก็ตาม
ภาวะขาดน้ำในระดับเล็กน้อยดังกล่าวส่งผลเสียต่อกระบวนการสร้างสมาธิ และการประสานงานของระบบประสาทสั่งการที่ควบคุมให้ร่างกายเคลื่อนไหวมากที่สุด แต่ไม่สู้มีผลต่อความว่องไวในการตอบสนองสิ่งเร้าต่าง ๆ มากนัก
ทั้งนี้ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญโดยทั่วไปให้คนเราดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือราว 2 ลิตรต่อวัน ซึ่งปริมาณน้ำที่ควรดื่มนั้นขึ้นอยู่กับ เพศ วัย สภาพอากาศ และสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย ส่วนภาวะขาดน้ำรุนแรงเนื่องจากการเสียเหงื่อ อาเจียน ปัสสาวะมากผิดปกติหรือท้องร่วง จะทำให้อ่อนเพลีย มึนงง หัวใจเต้นเร็วและหอบหายใจแรง จนถึงแก่ชีวิตได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.bbc.com/thai