7 วิธี เลือกคณะเรียน อย่างไรให้เรียนได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องซิ่วไปที่อื่นๆ
ในการ เลือกคณะเรียน ที่เราจะเรียนก็เหมือนว่าเรากำลังเลือกทางเดินของชีวิต บางครั้งหลายๆคนอาจจะบอกว่าไม่สำคัญ แต่ในการเลือกคณะเรียนก็เหมือนเป็นการเพิ่มพูนความรู้ความสามารถให้กับเรา ใครที่มีธุรกิจที่บ้านอยู่แล้ว อาจจะมองว่าไม่สำคัญมากเท่าไหร่ แต่ถ้าใครต้องเรียน เพื่อหาความรู้เพื่อไปทำงานในอนาคต บอกได้เลยว่า คณะเรียน ก็มีผลเยอะมากเลยนะ ดังนั้น เราควรจะเรียนให้มีความสุข และสนุกไปกับมันด้วยนะ
และในบทความนี้ พี่ก็มี 7 วิธีเลือกคณะ ให้เราเรียนได้อย่างมีความสุข มาเป็นแนวทางให้น้องๆ ที่จะไว้ใช้ในอนาคต นะจ้ะ
1. ชอบอะไร เลือกอันนั้นแหละ
ข้อนี้ เชื่อว่าทุกคนก็รู้ๆ กันอยู่แล้ว การเลือกคณะ ก็ต้องมาจากความชอบ และสิ่งที่ใช่ ลองค้นหาตัวเองดูว่าเราชอบอะไร ถนัดอะไร มีงานอดิเรกอะไรบ้าง หรือลองถามจากคนรอบข้างดู ในความถนัดของเรา และถ้าเราเลือกได้แล้ว อย่างน้อยมันก็จะทำให้เรามีความสุขบ้างแหละกับการเรียน เพราะเราได้เลือกในสิ่งที่ชอบ หรือสิ่งที่เราถนัดแล้ว
2. เลือกอย่างมีสติ พยายามตัดช้อยส์ในสิ่งที่ใช่ เท่านั้น
จริงๆ มันก็ต่อมาจากข้อที่ 1 เลย บางคนอาจจะตอบว่า ชอบมันทุกอย่างเลย มีชอบเยอะมาก ถนัดแยะเวอร์ 55+ คราวนี้เราก็ต้องมาทบทวนกันต่ออีกว่า อะไรที่ใช่ที่สุด อย่างแรกเลยคือ พยายาม จัดอันดับความชอบเราให้ได้ ให้เหลือแค่ 6 อันดับพอ และในช่วงเวลานี้ก็ลองหาข้อมูลกับ 6 อันดับนี้ดูว่าเราจะสนุกและชอบกับอะไรมากที่สุด และก่อนเลือกคณะตอนสมัครก็มาเรียงอันดับใหม่ เพราะในการจัดอันดับเข้ามหาลัย สูงสุดมันก็จัดได้แค่ 4-6 อันดับเท่านั้น แน่นอนว่า 1-6 อันดับนั้น น้อง ต้องเรียนและอยู่กับมันได้ ด้วยนะ
3. เลือกตามความถนัด และนิสัยของเรา
บางคนคิดไม่ออกก็เลือกตามเพื่อนเลย ซึ่งต้องบอกเลยว่า น้องอาจจะรู้สึกแย่ไปตลอดการเรียนเลยก็ได้นะ เอาเป็นว่านิสัยเราเป็นยังไง สนุกกับอะไร ถนัดแบบไหน ไม่ต้องมองใคร เลือกตามสิ่งที่เราคิด มันดีที่สุดแล้ว
4. ชอบแล้ว มันจะตกงานไหมล่ะ
นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผล ของการเลือกคณะเรียนด้วย ความชอบของน้องๆ บางครั้งเราก็ต้องลองศึกษาข้อมูลของอาชีพในอนาคตด้วยว่ามีตำแหน่งงานรองรับเราไหม แต่พี่เชื่อว่า ถ้าเราชอบ เราถนัด และทำมันได้ดี ยังไงก็มีคนอยากจะรับน้องเข้าทำงานอย่างแน่นอน
5. การเงินของครอบครัว
เราก็ต้องประเมิน การเงินของครอบครัวเราด้วย ว่าพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง ของเราจ่ายหรือส่งเสียเราไหวไหม ค่าเทอม อาจจะพอคุยกันได้เพราะมีทุนการศึกษา หลายๆ ทุนคอยช่วยเหลืออยู่บ้าง แต่ค่ากิน ค่าอยู่นี่แหละ สำคัญกว่า เพราะมันเยอะกว่าค่าเรียนมากเลย
6. ศึกษา ข้อมูลของคณะ และอาชีพในอนาคตให้ลึกซึ้ง
แน่นอนว่าเมื่อเราเลือกได้แล้ว ไม่ใช่แค่มุ่งจะเข้าเรียนให้ได้อย่างเดียว เราควรศึกษาข้อมูลของคณะนั้นๆ ก่อนว่าเหมาะกับเราหรือไม่ อาจจะไปเข้าค่ายแคมป์ต่างๆ ของคณะ หรือถามรุ่นพี่จากคณะนั้น หรือปรึกษา พี่ๆ จากเพจ หรือเว็บไซต์ทางการศึกษาต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเข้าเรียนด้วยนะจ้ะ
7. ควรเผื่อเวลาในการตัดสินใจ
อย่างน้อย ควรจะเริ่มคิดตั้งแต่ เปิดเทอม ม.6 หรืออย่างช้าสุด คือ เปิดเทอม ม.6 เทอม 2 ต้องได้คณะสาขาวิชาที่อยากจะเรียนแล้ว ไม่งั้นนะ น้องอาจจะสับสนและเครียดแน่นอน กับารเข้ามหาวิทยาลัย
.
ขอบคุณข้อมูล : opendurian.com/news/7choose